กว่าเด็กๆจะนั่งเรียน เขียน อ่าน ได้ ต้องมีทักษะพื้นฐานอะไรบ้างนะ ?

กว่าเด็กๆจะนั่งเรียน เขียน อ่าน ได้ ต้องมีทักษะพื้นฐานอะไรบ้างนะ ?

โพสต์นี้ ครูอ๋อมนักกิจกรรมบำบัด ฮักกลอรี่คลินิก มีคำตอบ

จากภาพ “พีระมิดของการเรียนรู้” จากด้านล่างขึ้นบน จะเห็นว่าการบูรณาการของระบบประสาทสามารถส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและการเรียนรู้เชิงวิชาการที่เด่นชัดมากขึ้น

พื้นฐานที่สำคัญ คือ “ระบบประสาทสัมผัสทั้ง 7 ระบบ” ได้แก่

1.  การสัมผัส (Tactile)

2.  การทรงตัว (Vestibular)

3.  การรับรู้เอ็นกล้ามเนื้อและข้อต่อ (Proprioception)

4.  การมองเห็น (Visual)

5.  การรับกลิ่น (Olfactory)

6.  การฟัง (Auditory)

7.  การรับรส (Gustatory)

หากเด็กๆสามารถบูรณาการของระบบประสาทได้ดี จะสามารถมีพัฒนาการตามลำดับต่อไปได้ซึ่งก็ คือ การเคลื่อนไหวร่างกาย ได้แก่

•  การเคลื่อนไหวร่างกายสองซีก (Awareness of two sides of body)

•  การวางแผนการเคลื่อนไหว (Motor planning)

•  การทรงท่าทางในการทำกิจกรรม (Postural security)

•  การรับรู้ร่างกายตนเอง (Body scheme)

•  ปฏิกิริยาสะท้อนกลับ (Reflex maturity)

•  ความสามารถในการรับข้อมูล (Ability to screen input)

ถ้าเด็กๆมีทักษะในการเคลื่อนไหวที่มีประสิทธิภาพ ก็จะสามารถพัฒนาการไปลำดับถัดไป คือ การรับรู้ ได้แก่

• สหสัมพันธ์ของตาและมือ (Eye-hand coordination)

• การควบคุมการเคลื่อนไหวของตา (Occular motor control)

• การจัดท่าทางของร่างกาย (Postural adjustment)

• การรู้ภาษา (Auditorylanguage skills)

• การรับรู้ทางสายตา (Visual-spatial perception)

• สมาธิ (Attention center functions)

เมื่อมีทักษะต่างๆดีขึ้น จะเริ่มมีพัฒนาการลำดับถัดไป คือ ความคิดความเข้าใจ

• การทำกิจวัตรประจำวัน (Daily living activities)

• พฤติกรรม (Behaviour)

และจะพัฒนาไปจนถึงทักษะสูงสุด คือ “การเรียนรู้ (Academic learning)”

ดังนั้น ทักษะต่างๆ ล้วนเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับความสามารถของเด็ก ๆ หากจะสามารถเรียนรู้ อ่านเขียน มีสมาธิจดจ่อได้ดี จำเป็นมีทักษะพื้นฐานที่ดีและมีประสิทธิภาพก่อน ทักษะพื้นฐานจึงสำคัญมากๆ ค่ะ

 “นักกิจกรรมบำบัดเด็ก” จึงมักจะนำการเล่นผ่านการบูรณาการของระบบประสาทมาใช้ในห้องฝึกเป็นอย่างแรก เพื่อเตรียมความพร้อมทักษะต่าง ๆ ก่อนจะทำกิจกรรมนั่งโต๊ะ กิจกรรมเขียน หรือกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิ เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ  

แหล่งอ้างอิง : https://otplan.com/pyramid-of-learning/