ลูกไม่ชอบให้มือเปื้อน ไม่ค่อยยอมเล่นเลย ทำอย่างไรดี?
- huggloryclinic
- 5 ต.ค. 2566
- ยาว 1 นาที

ลูกไม่ชอบให้มือเปื้อน ไม่ค่อยยอมเล่นเลย ทำอย่างไรดี?
ลูกเป็นแบบนี้มั้ยคะ? "ไม่ชอบเล่นทราย ไม่ชอบเล่นกาว" "ไม่ชอบให้มือเปื้อน ไม่ชอบเล่นอะไรเลอะๆ" "ไม่ยอมเล่นแป้งโดว์ เล่นแป๊บๆก็เลิก" "รำคาญเนื้อผ้าบางอย่าง ไม่ชอบป้ายเสื้อต้องตัดออก" "ทานยาก ทานอาหารแค่บางอย่างเช่น เส้นๆ หรือกรอบๆ แห้งไม่เอาน้ำซุป" "แปรงฟันยาก ไม่ชอบให้จับหน้า/เช็ดหน้า, ตัดผม,ตัดเล็บ" "ไม่ชอบเหยียบหญ้า บางทีชอบเดินเขย่ง" พอไม่ชอบใช้มือจับวัตถุบางอย่าง โดนอะไรนิดหน่อย ก็ “รู้สึกไว" จึงทำให้ปฏิเสธการเล่นกับของบางสิ่งได้ง่าย มือเลยไม่ค่อยได้ใช้งานหรือทำให้ใช้ชีวิตประจำวันได้ยากขึ้นซึ่งหลายพฤติกรรมปฏิเสธสัมผัสบางอย่างที่เกิดกับลูก อาจส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ของเค้าได้ ยกตัวอย่างเช่น การใช้ร่างกายสำรวจสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวก็จะลดลงเพราะไม่ยอมจับของใหม่ๆที่ไม่คุ้นเคย ทำให้ดูเป็นเด็กไม่กล้า ขี้กลัว ขี้กังวล ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของลูกลำบากมากขึ้น เพราะทานยาก ละเอียดและเรื่องเยอะ ทำให้ส่งผลต่อพัฒนาการ เช่น กล้ามเนื้อมือไม่แข็งแรงจากการไม่ค่อยยอมหยิบจับอะไรที่ไม่คุ้น หรือใช้มือเล่นน้อย มีหลายเรื่องที่ไม่ชอบ จึงทำให้ทนอะไรไม่ค่อยได้ ส่งผลต่ออารมณ์ ทำให้หงุดหงิดได้ง่าย ปรับตัวยาก เพราะกังวลกับสัมผัส การเข้าสังคม กับเพื่อนใหม่ๆ เช่น อาจจะไม่ชอบให้เพื่อนแตะตัว หรืออยู่ท่ามกลางคนหมู่มาก อาจส่งผลต่อสมาธิ รวมถึงเปลี่ยนความสนใจง่าย เพราะทนกับการทำกิจกรรมที่ต้องใช้การสัมผัสอะไรได้ไม่นาน เช่นบางคนไม่ชอบจับดินสอเขียน ไม่ชอบงานประดิษฐ์งานศิลปะเพราะกลัวเลอะ เป็นต้น แล้ววิธีการช่วยเหลือเค้า เราจะทำอย่างไรดี? วิธีการที่ถูก 1. เพิ่มโอกาสให้เจอกับสัมผัสที่ไม่คุ้นเคยบ้าง เช่น ให้ลูกได้เล่นสัมผัสที่หลากหลาย และแตกต่าง ในลิ้งค์นี้เมย์เคยลงเนื้อหาไว้ค่ะ >> "สัมผัส" รอบบ้านช่วยให้หนูมี "พัฒนาการดี" << 2. หากลูกปฏิเสธลองให้เค้าค่อยๆใช้บางส่วนของร่างกายสัมผัสดูก่อน เช่น - ทราย ไม่ลงไปเล่นทั้งตัว อาจจะเริ่มจากเล่นทรายในกระบะเล็กๆก่อน ให้งมหาของเล่นในนั้น (เค้าอาจจะเริ่มจากใช้เพียงนิ้วมือเขี่ยๆดู ไม่ใช้ทั้งมือควานหาก็ไม่เป็นไรนะคะ) พอเริ่มปรับตัวได้ เค้าจะกล้าสัมผัสทั้งมือ ทั้งตัวมากขึ้น - หญ้า ให้ใส่รองเท้าเดินบนหญ้าก่อน และเสริมกิจกรรมตามหาของเล่นในพงหญ้า มือจะสัมผัสเพียงเล็กน้อยกับหญ้า เมื่อยอมมากขึ้น ค่อยเพิ่มเป็นการนั่งเล่นบนหญ้า สุดท้ายค่อยถอดรองเท้าเดินค่ะ 3. เริ่มสัมผัสจากของที่แห้งๆก่อน เพราะยิ่งเปียก ยิ่งดูเลอะ สัมผัสที่ให้ก็อย่างเช่น เล่นงมหาของในถังข้าวสาร ถังถั่ว ถังมักกะโรนี หรือทรายที่แห้งๆก่อน หากทนได้มากขึ้น ค่อยเปลี่ยนเป็นของที่เปียกๆ เช่น ทรายเปียก หรือแป้งโดว์ 4. เพิ่มระยะเวลาที่ได้อยู่หรือเล่นกับสัมผัสนั้น เช่น จากงมหาของแค่ 1-2 ชิ้น เป็นหาของ 10ชิ้น เพื่อให้ผิวหนังที่เราสัมผัสกับสื่อสัมผัสต่างๆนานขึ้น ระบบรับความรู้สึกเค้าจะเริ่มชิน ปรับตัวและทนได้มากขึ้น 5. ในกรณีของการทานยาก ไม่ชอบตัดเล็บ ตัดผม แปรงฟันยาก เมย์แนะนำให้นวดตัวด้วยแปรง Sensory Brush เพื่อช่วยในการปรับระดับการรับสัมผัสได้ดีขึ้น ช่วยลดภาวะความไวต่อสัมผัส หรือพฤติกรรมปฏิเสธสัมผัสในเด็กๆได้ (เพิ่มเติมในส่วนของการทานยาก แปรงฟันยากจะมีอีกเทคนิคนึงที่ช่วย คือการนวดกระตุ้นบริเวณปาก ไว้เมย์จะมาอธิบายส่วนนี้เพิ่มเติมในโพสต์ต่อๆไปนะคะ) วิธีการที่ผิด มีสิ่งที่ควรระวังเมื่อเด็กกังวลกับสัมผัสมากๆ นั่นก็คือ การบังคับ ให้เด็กเจอสัมผัสนั้นๆโดยที่เค้าไม่เต็มใจเด็กจะต่อต้านและปฏิเสธ มากขึ้น การจับเด็ก ให้เด็ก "ทน" อยู่กับสิ่งที่ไม่ชอบ เด็กจะยิ่งกลัว และกลายเป็นฝังใจได้ ซึ่งอาจจะกลายเป็นคนวิตกกังวลได้ง่ายเมื่อเวลาผ่านไป หรือเมื่อโตขึ้น ดังนั้นเราจึงไม่ควรทำนะคะ ทั้งนี้วิธีการช่วยเหลือต้องอาศัยเวลา ต้องเข้าใจความรู้สึกของเค้าให้มากคุณพ่อคุณแม่หรือคุณครูต้องใจเย็นให้เวลาเค้าในการปรับตัวต่อสัมผัสต่างๆ ให้เค้ามีเวลาจัดการกับความรู้สึกที่เค้าไม่ชอบผ่านวิธีการด้านบนตามที่เมย์ยกตัวอย่างมา พร้อมกับสร้างประสบการณ์ทางสัมผัสเชิงบวกโดยที่ยังให้เค้ารู้สึกว่าตัวหนู "ควบคุม" สถานการณ์ที่ไม่ชอบได้ (ตกลงจำนวนและเวลาที่ใช้ร่วมกับเด็ก) ตัวหนู "คาดเดา" ได้ว่าตัวหนูต้องเจอกับอะไร (ต้องให้เด็กเห็นและบอกเค้าก่อนให้เค้าได้เตรียมใจ) เมื่อเค้าปรับตัวได้ เค้าจะเริ่มรู้สึกว่าสิ่งนั้นมันก็ไม่ได้อันตรายอะไร และมีความรู้สึกดีขึ้นกับสัมผัสเหล่านี้ได้อาจจะไม่ถึงกับชอบ แต่ก็ไม่ต่อต้าน
Comments